วันที่ 6 เมษายน 2568 ที่บริเวณหอประชุมจังหวัดยโสธร ศาลากลางจังหวัดยโสธร นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานนำนางนันทพร ศรศรีวิชัย นายกเหล่ากาชาดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดยโสธร รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร คณะหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ ตลอดจนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ร่วมกันประกอบรัฐพิธีถวายราชสักการะและบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ ประจำปี 2568 โดยเป็นการประกอบพิธีสงฆ์ ถวายภัตตาหาร และจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระเทพวงศาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดยโสธร เจ้าอาวาสวัดหาธาตุ (พระอารามหลวง) และคณะสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จากนั้นประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ ถวายราชสักการะเบื่องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ และกล่าวคำประกาศราชสดุดีน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณ แสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณต่อมหาจักรีบรมวงศ์ ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันน้อยใหญ่นานัปการเพื่อพสกนิกรชาวไทย
โดยวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์สมบัติเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ที่ได้ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2325 และทรงปกครองปวงชนชาวไทยให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข เป็นแบบอย่างที่พระมหากษัตริย์ไทยในพระบรมราชจักรีวงศ์ได้ทรงเจริญรอยตามพระยุคลบาทสืบต่อกันมาโดยลำดับ และด้วยพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว ในปี พ.ศ. 2416 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 4 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อประดิษฐานไว้ให้พระมหากษัตริย์องค์ต่อมา พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนได้ถวายบังคมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติปีละครั้ง และโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งมีการย้ายสถานที่ในการประดิษฐานหลายครั้ง เช่น พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท และพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ย้ายพระบรมรูปมาไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดรในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับพระบรมรูปของรัชกาลที่ 5 พระบรมชนกนาถ จนกระทั่งในเดือนเมษายน พ.ศ. 2461 การซ่อมแซมก่อสร้างและประดิษฐานพระบรมรูปทั้ง 5 รัชกาล จึงสำเร็จลุล่วง และได้มีพระบรมราชโองการประกาศตั้งพระราชพิธีถวายบังคมพระบรมรูป ในวันที่ 6 เมษายนในปีนั้น และต่อมาโปรดฯ ให้เรียกวันที่ 6 เมษายน ว่า วันจักรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร
https://yasothon.prd.go.th/th/content/category/detail/id/9/iid/379364