วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ที่หอประชุมจังหวัดยโสธร ศาลากลางจังหวัดยโสธร นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานในรัฐพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะเนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประจำปี 2568 โดยมีนางนันทพร ศรศรีวิชัย นายกเหล่ากาชาดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดยโสธร ว่าที่ร้อยตรี ขรรค์ไชย ทันธิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายสันชัย พัฒนะวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดยโสธร ข้าราชการหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนชาวจังหวัดยโสธรทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เพื่อเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อแผ่นดินไทย
โดยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 หรือสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสรรเพชรญ์ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยา เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 4 และพระองค์สุดท้ายของราชวงศ์ปราสาททอง ทรงเป็น 1 ใน 8 สมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ที่ทรงได้รับพระสมัญญานามว่าเป็น “มหาราช” ทรงเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปีวอก พ.ศ. 2175 (นับแบบปัจจุบัน พ.ศ. 2176) เป็นพระราชโอรสของ พระเจ้าปราสาททอง พระมหากษัตริย์ผู้ครองกรุงศรีอยุธยา กับพระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เหตุที่มีพระนามว่า “นารายณ์” มีที่มาน่าสนใจคือ มีพระญาติวงศ์เหลือบเห็นเป็น 4 กร โดยทรงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2199 มีพระนามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่าสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 ขณะทรงมีพระชนมายุ 25 พรรษา พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถอย่างยิ่ง ทรงสร้างความรุ่งเรือง และความยิ่งใหญ่ให้แก่กรุงศรีอยุธยาเป็นอย่างมาก ทรงขยายพระราชอาณาจักร ทำศึกกับพม่าเพื่อชิงเมืองเชียงใหม่ ทำสงครามเพื่อชิงเมืองทวายและเมืองเมาะตะมะกลับมาเป็นของกรุงศรีอยุธยา ทรงส่งเสริมด้านการค้าขายกับนานาชาติ อาทิ จีน อินเดีย ฮอลันดา อังกฤษ และอิหร่าน จนทำให้กรุงศรีอยุธยาเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางแลกเปลี่ยนการค้าระดับนานาชาติ ทรงสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางด้านการทูต โดยส่งคณะราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างชาติ อาทิ อิหร่าน และฝรั่งเศส พร้อมทั้งนำวิทยาการและเทคโนโลยีจากต่างชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่อาณาจักร ทั้งการสร้างป้อมปืน ระบบน้ำประปา ดาราศาสตร์ และการแพทย์แบบตะวันตก และทรงสร้างพระราชวังเมืองละโว้ หรือลพบุรี เมื่อ พ.ศ. 2209 เพื่อใช้สำหรับว่าราชการ ต้อนรับแขกเมือง และทรงประทับอยู่ที่เมืองลพบุรี 8-9 เดือนต่อปี โดยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศ เมืองลพบุรี หลังจากประชวรหนัก เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231 พระชมมายุ 56 พรรษา ดังนั้น คณะรัฐมนตรี จึงมีมติให้ วันที่ 11 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
สำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดยโสธร
ทินกร ข่าว/ เอกรินทร์ ภาพ