วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน ให้ นายประวิทย์ ไชยวิเศษ อัญเชิญไปทอดถวายที่ชุมนุมสงฆ์ ณ วัดมหาธาตุ พระอารามหลวง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและสืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย โดยมีพระเทพวงศาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดยโสธร และเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีนายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ตลอดจนคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ร่วมพิธีโดยพร้อมเพียงกัน ซึ่งเบื้องต้นมียอดจตุปัจจัยถวายพระราชกุศลทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในครั้งนี้รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,089,300 บาท ประกอบไปด้วย ถวายบำรุงและบูรณะพระอาราม 1,000,000 บาท ถวายพระองค์ครอง (ประธานสงฆ์) 10,000 บาท ถวายพระอปโลกน์ 4,000 บาท ถวายพระคู่สวด 4,000 บาท ถวายพระอันดับ 20,000 บาท ถวายสามเณร 12,300 บาท บำรุงโรงเรียนพระปริยติธรรม 20,000 บาท ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 19,000 บาท
โดยวัดมหาธาตุ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ มีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญหลายอย่าง อาทิ พระธาตุอานนท์ หรือพระธาตุยโสธร ซึ่งสันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลศิลปะลาว สร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงต้นรัตนโกสินทร์ และเชื่อว่าเป็นที่บรรจุอัฐิธาตุของพระอานนท์ นอกจากนี้ยังมี พระพุทธปฏิมาบุษยรัตน์ หรือพระแก้วหยดน้ำค้าง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) พระราชทานให้ และ หอไตรกลางน้ำที่มีศิลปะงดงาม สำหรับเก็บรักษาคัมภีร์ใบลาน
ทั้งนี้ประเพณีการทอดกฐิน ถือเป็นกาลทานที่สำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนา โดยมีช่วงเวลาจำกัดเพียง 1 เดือนหลังออกพรรษา คือตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 วัตถุประสงค์หลักคือการถวายผ้าไตรจีวรแด่พระสงฆ์ที่จำพรรษาครบถ้วนไตรมาส เพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่สงฆ์ และอนุเคราะห์ภิกษุที่มีจีวรชำรุด การถวายผ้ากฐินจึงนับเป็นสังฆทานที่ไม่เจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง และแต่ละวัดสามารถรับกฐินได้เพียงครั้งเดียวในรอบปี ทำให้ประเพณีนี้เป็นบุญใหญ่ที่พุทธศาสนิกชนไทยยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน
#สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร#ยโสธร
ทินกร ข่าว /สุภาพร ภาพ









