วันที่ 5 ธันวาคม 2568 ที่จังหวัดยโสธร นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วยนางนันทพร ศรศรีวิชัย นายกเหล่ากาชาดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดยโสธร พร้อมคณะหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ลงพื้นที่ หมู่ที่ 3 ตำบลทรายมูล อำเภอทรายมูล เยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้าน พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน หลังได้รับรายงานจากพื้นที่เกี่ยวกับการเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านประชาชนเสียหาย ช่วงเวลาประมาณเวลา 22.30 น. ของวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา แม้หลังรับแจ้งเหตุ นายทรงศักดิ์ มูลสาร นายกเทศมนตรีตำบลทรายมูล ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผนึกกำลังร่วมกับเทศบาลเมืองยโสธร, เทศบาลทุ่งแต้ และองค์การบริหารส่วนตำบลไผ่เข้าสกัดกั้นเพลิงทันทีท่ามกลางความมืด จนกระทั่งเวลา 23.30 น. จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แม้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
โดยเหตุระทึกขวัญครั้งนี้ต้นเพลิงเริ่มขึ้นที่บ้านเลขที่ 32 ของนายเย็นอุรา ทองบ่อ ก่อนที่กระแสลมหนาวจะพัดพาเปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็วไปยังบ้านข้างเคียง ได้แก่ บ้านเลขที่ 119 ของนางทองม้วน ชื่นตา และบ้านเลขที่ 29 ของนายประจักษ์ มูลสาร ส่งผลให้บ้านทั้ง 3 หลังได้รับความเสียหาย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทรายมูล กำลังเร่งพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งนอกจากการให้กำลังใจแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ยังได้ฝากความห่วงใยและเตือนสติพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่อากาศแห้งและลมแรง ซึ่งเอื้อต่อการเกิดอัคคีภัย โดยเน้นย้ำให้ตรวจสอบความเสี่ยงในบ้านให้ดี เพราะมีหลายจุดที่มักถูกมองข้าม ไม่ว่าจะเป็น สายไฟและปลั๊กพ่วงเสื่อมสภาพ ทั้งสายไฟเก่า กรอบ แตก หรือการใช้ปลั๊กพ่วงที่ไม่ได้มาตรฐานเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกันหลายชิ้น ซึ่งจะเกิดความร้อนสะสมและลัดวงจรได้ หรือการก่อไฟคลายหนาว ที่เป็นวิถีชาวบ้านที่นิยมก่อกองไฟผิง หรือใช้เตาถ่านในบ้าน หากดับไม่สนิทก่อนเข้านอน สะเก็ดไฟอาจกระเด็นไปติดมุ้ง ผ้าห่ม หรือผนังบ้านที่เป็นไม้ได้ง่าย รวมถึงการจุดธูปเทียนบูชาพระ ที่เป็นการจุดทิ้งไว้โดยไม่มีคนเฝ้า หรืออาจจะวางอยู่ใกล้เชื้อเพลิง เช่น ผ้าม่าน หนังสือพิมพ์ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดไฟไหม้บ้านได้ นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของเตาแก๊ซ ก็ขอให้เช็คสายยางให้ดี ปิดวาล์วถังให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้จะเห็นว่าในพื้นที่มีเศษวัสดุทางการเกษตรเหลือใช้เป็นจำนวนมาก รวมถึงมีเศษขยะและหญ้าแห้งที่เป็นเชื้อเพลิงชั้นดี ไม่อยากให้เผา เพราะนอกจากจะอาจก่อให้เกิดไฟไหม้แล้ว ยังส่งผลให้เกิดมลพิษทางอากาศ จากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ด้วย โดยเน้นย้ำว่า สะเก็ดไฟเพียงเล็กน้อยสามารถลุกลามเข้าสู่ตัวบ้านได้ในพริบตา ขอให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
#สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร#ยโสธร
ทินกร ข่าว/ เอกรินทร์, ธนากร ภาพ






